บันทึกช่วยให้คุณบันทึกการตั้งค่าของคุณ การตัดสินใจ อารมณ์ และผลลัพธ์ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการชนะหรือแพ้ มันคือการเข้าใจสิ่งที่ผลักดันการตัดสินใจของคุณเพื่อที่คุณจะสามารถปรับปรุงผลการซื้อขายของคุณในระยะยาว
ตัวอย่างเช่น, สมมติว่าคุณซื้อ BTC/USDT ที่ $108,000 โดยคาดหวังว่าจะเกิดการเบรกเอาท์ แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ราคาได้ย้อนกลับไปที่ $104,500 และโดนสต็อปล็อคของคุณ หากไม่มีบันทึก คุณอาจตำหนิความผันผวนของตลาด แต่บันทึกของคุณแสดงให้เห็นว่าคุณมองข้ามโซนต้านที่ชัดเจนและเข้าเร็วเกินไป การสะท้อนนี้กลายเป็นข้อได้เปรียบของคุณในการเทรดครั้งถัดไป
เมื่อเวลาผ่านไป การเขียนบันทึกช่วยให้คุณระบุรูปแบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดที่มีอารมณ์ ความเสี่ยงที่ไม่เหมาะสม หรือการเข้าไม่ตรงเวลาอยู่เสมอ
เคล็ดลับ: หลังจากทุกการเทรด ให้บันทึกการเข้าและออก ขนาดการเทรด เหตุผลในการเข้า ผลลัพธ์ และความรู้สึกของคุณก่อนและหลังการเทรด ทบทวนบันทึกของคุณทุกสัปดาห์เพื่อเสริมสร้างระเบียบวินัยในการเทรดและหลีกเลี่ยงการทำผิดซ้ำๆ ที่มีค่าใช้จ่ายสูง
5. เสี่ยงมากเกินไปกว่าที่คุณจะเสียได้
ความดึงดูดของกำไรอย่างรวดเร็วมักจะทำให้ผู้เทรดเสี่ยงมากเกินไป บางคนวางเดิมพันทั้งหมดโดยหวังว่าการเทรดเดียวจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางการเงินของพวกเขาในชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตาม ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูงอย่างมาก แม้แต่การตั้งค่าที่แข็งแกร่งก็สามารถถูกขัดจังหวะจากข่าวสารหรือการเปลี่ยนแปลงของราคาในทันที
นี่คือเหตุผลที่ผู้เทรดที่มีประสบการณ์หลายคนทำตามกฎง่ายๆ: เสี่ยงแค่เท่าที่คุณสามารถเสียได้โดยไม่รู้สึกเสียใจ นี่ไม่เพียงแต่ปกป้องเงินทุนของคุณ แต่ยังปกป้องจิตใจของคุณด้วย
บางคนยังตั้งช่วงเวลา "พักใจ" ก่อนที่จะทำการเทรดที่ใหญ่ขึ้น เช่น หากคุณรู้สึกมั่นใจเกินไปหรืออยากฟื้นคืนจากการขาดทุน ให้หยุดพัก ทบทวนบันทึกการเทรดของคุณ ประเมินความเสี่ยงของคุณใหม่ และคิดทบทวนอีกครั้ง การตัดสินใจที่มีอารมณ์เป็นสาเหตุของการขาดทุนมากมาย
วิธีการที่ควบคุมได้อาจจะไม่น่าตื่นเต้นนัก แต่จะทำให้คุณอยู่ในเกมได้นานขึ้น ซึ่งคือสิ่งที่สำคัญที่สุด